ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ หลุด 38 บาท/ดอลลาร์อีกที “แข็งค่า” ที่ 37.98 บาท/ดอลลาร์ กรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 37.90-38.15 บาท/ดอลลาร์
ค่าเงินบาทได้รับแรงหนุน จากการคาดเดาของนักลงทุนที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) บางทีอาจชะลอการรีบขึ้นดอกได้ในช่วงปลายปี ภายหลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ปัจจุบัน เริ่มส่งสัญญาณการรอตัวของเศรษฐกิจที่แจ้งชัดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่น ดรรชนี PMI ภาคการสร้างและก็ภาคการบริการที่น้อยลงตลอดต่ำลงมากยิ่งกว่าระดับ 50 จุด รวมทั้ง ดรรชนีความมั่นใจและความเชื่อมั่นลูกค้า (CB Consumer Confidence) ต.ค.ที่น้อยลงห่วยแตกกว่าคาด ยิ่งกว่านั้น รายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทขึ้นทะเบียนที่จำนวนมากออกมาดียิ่งกว่าคาดยังได้ช่วยหนุนให้ตลาดค้าหุ้นสหรัฐอเมริกา สามารถปรับนิสัยขึ้นตลอด โดยดรรชนี S&P500 ปรับพฤติกรรมขึ้น +1.63% ส่วนดัชนีตลาดหุ้นเทคฯ Nasdaq ปิดตลาด +2.25% ตามแรงซื้อหุ้นกรุ๊ปเทคฯ ภายหลังที่บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐอเมริกา พลิกกลับมาปรับนิสัยน้อยลงสู่ระดับ 4.09% ตามการปรับลดมุมมองการรีบขึ้นดอกของผู้เล่นในตลาด
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักวางกลยุทธ์ตลาดเงินตราตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS แบงค์กรุงไทย บอกว่าเงินดอลลาร์พลิกกลับมาอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยดรรชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ได้ปรับพฤติกรรมต่ำลงสู่ระดับ 110.95 จุด (-0.95%) ตามการเดินหน้าเปิดรับการเสี่ยงของนักลงทุน ที่บีบคั้นให้นักลงทุนลดการครอบครองเงินดอลลาร์ลง สำหรับวันนี้ นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทขึ้นทะเบียน ซึ่งถ้าหากผลประกอบการจำนวนมากยังคงออกมาดียิ่งกว่าคาด ก็จะสามารถช่วยหนุนบรรยากาศเปิดรับการเสี่ยง (Risk-On) ของตลาดการคลังได้ แนวโน้มค่าเงินบาท พวกเราประเมินว่า เงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าเร็วกว่าที่คาด หนุนโดยการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ โดยการแข็งค่าของเงินบาทบางทีอาจจำกัดอยู่ในโซน 37.80-37.90 บาทต่อดอลลาร์ เนื่องจากว่าบรรดาผู้นำเข้าต่างรอคอยทยอยเข้าซื้อเงินดอลลาร์ในช่วงปลายเดือน นอกนั้น นักลงทุนเริ่มกลับมาอยู่ในโหมด Wait and See เพื่อคอยจับตาผลของการสัมมนาของธนาคารกลางหลักสำคัญ อีกทั้ง ธนาคารกลางยุโรป (ECB) รวมทั้งธนาคารกลางประเทศญี่ปุ่น (BOJ) ในช่วงปลายอาทิตย์ ก่อนจะเปลี่ยนแปลงสถานะครองที่แน่ชัดอีกที