
อะไรเป็นต้นเหตุที่กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดลมพายุหลายครั้งและก็ลมพายุที่เกิดมีลัษณะทิศทางร้ายแรงขึ้น คำตอบเป็น มีเหตุที่เกิดจากอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นอุณหภูมิของโลกที่สูงขึ้นเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากอะไร
เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการเผาพลังงานฟอสซิล ดังเช่นว่า น้ำมัน ถ่านหิน ที่กระตุ้นให้เกิดก๊าสปรากฏการณ์เรือนกระจก เป็นต้นว่า คาร์บอนไดออกไซด์ แก๊สสภาวะเรือนกระจกที่ถูกปลดปล่อยออกมาจะไปห้ามแสงแดดไม่ให้สะท้อนกลับสู่ชั้นบรรยากาศ ความร้อนที่ถูกเก็บกักเอาไว้ภายในโลกนำมาซึ่งการทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยของผิวโลกสูงมากขึ้น อุณหภูมิเฉลี่ยของผิวโลกเริ่มมากขึ้นอย่างเป็นจริงเป็นจังตั้งแต่สมัยปฏิรูปอุตสาหกรรมที่เริ่มขึ้นในตอนศตวรรษที่ 18 เป็นตอนที่มีการประดิษฐ์สร้างสรรค์เครื่องจักรรวมทั้งเครื่องยนต์กลไกที่ตามมาด้วยการเผาพลังงานฟอสซิลอย่างถ่านหินรวมทั้งน้ำมันอย่างคุ้มดีคุ้มร้าย เมื่อวันที่มีการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรม ตอนนี้อุณหภูมิเฉลี่ยของผิวโลกสูงมากขึ้นแล้ว 1.1 องศาเซลเซียสนี่เป็นสาเหตุของความอลหม่านของลักษณะอากาศเดี๋ยวนี้ เนื่องจากว่าอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น ทำให้น้ำทะเลอุ่นขึ้น
น้ำทะเลที่อุ่นเป็นยาชูกำลังของลมพายุ โดยยิ่งไปกว่านั้นจำพวกที่ก่อตัวโดยอาศัยพลังน้ำจากห้วงมหาสมุทรดังเช่น เฮอริเคนหรือพายุไต้ฝุ่นยิ่งน้ำทะเลอุ่นมากแค่ไหน ลมพายุก็จะยิ่งทรงอำนาจมากมายแค่นั้น ความทรงอำนาจของลมพายุอาจมาพร้อมด้วยฝนที่ร้ายแรงหรือเยอะขึ้นด้วย เพราะเหตุใด เนื่องด้วยความร้อนจะมีผลให้น้ำระเหยแปลงเป็นไอขึ้นไปสะสมอยู่ในชั้นบรรยากาศ ยิ่งโลกร้อนจัดขึ้นเท่าใดน้ำก็จะไปสะสมในชั้นบรรยากาศเยอะขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มีการเพิ่มละอองน้ำให้กับก่อนก้อนเมฆรวมทั้งกลั่นตัวเป็นจำนวนฝนที่มากรวมทั้งแรงขึ้น นี่เป็นภาพที่กำลังเกิดขึ้นกับเฮอริเคน พายุหมุน ที่กำลังรัวในหลายภูมิภาคของโลกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแต่หนังตัวอย่างแค่นั้น
ข่าวไม่ดีก็คือ หากไปสัมผัส 1.5 องศาเซลเซียสเมื่อไร โลกจะป่วนปั่นมากยิ่งกว่านี้ ดังนี้กรอบในเวลาที่เปิดโอกาสมนุษย์สำหรับการควบคุมไม่ให้อุณหภูมิของโลกแตะต้อง 1.5 องศามีไม่เท่าไรนัก รายงานการเรียนของ IPCC หรือ คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวสภาพอากาศเล่าเรียน ซึ่งเป็นการดำเนินงานของนักวิทยาศาสตร์ทั่วทั้งโลกกว่า 3,000 คน ได้เผยแพร่รายงานเมื่อสิงหาคมปีที่ผ่านมา ก่อนการสัมมนาโลกร้อนหรือ Cop26 ที่สกอตแลนด์ รายงานนี้เป็นรายงานที่มีความละเอียดรวมทั้งครอบคลุมสูงที่สุดเท่าที่เคยมีการทำมา มีความยาว 42 หน้า ใช้เวลาทำถึง 8 ปี
รายงานนี้บอกว่า ด้วยอัตราการปลดปล่อยก๊าสเท่าตอนนี้ มนุษยชาติเหลือเวลาอีกเพียงแค่ 11 ปีเพียงแค่นั้นสำหรับการจัดการกับปัญหา ก่อนที่จะโลกจะเข้าสู่จุดที่ไม่สามารถที่จะหวนหรือ Tipping Point ถ้าเกิดถึงจุดนั้นจะกำเนิดอะไรขึ้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นเป็น ลักษณะอากาศแบบเต็มที่ มนุษย์จะได้มองเห็นคลื่นความร้อนที่ร้ายแรงแล้วก็กำเนิดถี่ขึ้น ลมพายุจะถี่แล้วก็แรงขึ้น ฝนตกหนักขึ้นทั่วทั้งโลก เกือบทุกพื้นที่จะประสบภัยแล้งร้ายแรงขึ้น รวมทั้งจะเกิดเหตุการณ์ที่ทวีปอาร์กติก เกือบไม่เหลือน้ำแข็งอยู่เลย ขั้นต่ำ 1 ครั้งที่แล้วถึงปี 2050 เมื่อน้ำแข็งขั้วโลกละลาย ระดับน้ำทะเลจะสูงมากขึ้น บรรดาเมืองรวมทั้งประเทศที่อยู่ขอบริมฝั่งจะพบกับหายนะ ในรายงานนี้ของ IPCC กำหนดถึงความเคลื่อนไหวที่จะเกิดขึ้นกับระดับน้ำทะเล
โดยนักวิทยาศาสตร์ของ IPCC ได้ทำแบบจำลองเหตุการณ์ที่ครอบคลุมการปลดปล่อยแก๊สสภาวะเรือนกระจกในทุกระดับ แล้วก็พวกเขาไม่บางทีอาจตัดความน่าจะเป็นไปได้ที่น้ำทะเลจะสูงมากขึ้นถึง 2 เมตรด้านในปี 2100 หรือเร็วกว่านั้น ปัญหาเป็น พวกเราได้โอกาสที่จะหยุดไม่ให้โลกไปถึงจุดนั้นไหม คำตอบเป็นมี แม้กระนั้นช่องทางลดน้อยลงทุกครั้ง รายงานการศึกษาเล่าเรียนของ IPCC ชิ้นนี้ชี้ว่า ในเวลานี้อุณหภูมิโลกร้อนขึ้นเร็วมากกว่าตอนใดๆก็ตามในรอบ 2,000 ปีรวมทั้งด้วยอัตรานี้คาดกันว่า ภายในช่วงระยะเวลาไม่เกิน 20 ปีด้านหน้า อุณหภูมิโลกจะร้อนขึ้นแตะต้อง 1.5 องศาเซลเซียสอย่างไม่ต้องสงสัย